ปัจจุบันมีคนไทยที่ออกไปทำงานในต่างประเทศมากขึ้น และส่วนใหญ่ก็มีความต้องการที่จะนำเงินรายได้กลับมาซื้อบ้านในประเทศไทย โดยสามารถดำเนินการยื่นขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านกับธนาคารได้ตามปกติ
แต่อาจต้องมีการแสดงหลักฐานที่มาที่ไปของรายได้ที่ชัดเจนเป็นพิเศษ ต้องเข้าไปทำงานอย่างถูกกฎหมาย ในบริษัทหรือองค์กรที่น่าเชื่อถือได้ โดยมีคำแนะนำเพิ่มเติมก็คือ พยายามเดินบัญชีให้มีรายรับโอนเข้าบัญชีของธนาคารในประเทศไทยในทุกๆเดือน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี
นอกจากนี้พยายามรวบรวมเอกสารต่างๆประกอบการยื่นขอสินเชื่อให้มากที่สุด เช่น สลิปเงินเดือน, สัญญาว่าจ้าง, ใบรับรองการทำงาน, ใบรับรองเงินเดือนหรือรายได้ เป็นต้น หรือในกรณีทำอาชีพอิสระ เป็นเจ้าของกิจการ ก็ต้องมีเอกสารการเสียภาษี ใบเสร็จรับเงินซื้อ-ขายสินค้า หลักฐานการรับ-จ่ายเงินต่างๆ เรียกว่าเตรียมเอกสารให้พร้อมครบถ้วน เพื่อสร้างความมั่นใจในการให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อให้เรา
อย่างไรก็ตาม หากยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารไปแล้ว ถูกปฏิเสธกลับมา ก็ยังมีตัวเลือกอื่นในการกู้ซื้อบ้านได้อีก จากบริษัทเอกชนที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมักจะถูกเรียกว่า “การซื้อบ้านหรือคอนโดแบบผ่อนตรงกับเจ้าของ หรือผ่อนโดยตรงกับบริษัท” ทั้งนี้มีประเด็นที่ต้องพิจารณาก็คือ
- ต้องจดทะเบียนเป็นบริษัทอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- ให้อัตราดอกเบี้ยไม่เกินที่กฎหมายกำหนด
- มีสัญญาการกู้ซื้อบ้านชัดเจน และเป็นธรรม
- มีตารางแสดงการผ่อนจ่ายแต่ละเดือน ที่แสดงยอดเงินต้นและส่วนของดอกเบี้ย **
** สาเหตุที่ต้องมีตารางแสดงการผ่อนจ่ายแต่ละเดือนให้เห็น เพราะจะทำให้ผู้กู้ซื้อบ้านได้รับรู้ว่าเงินที่ผ่อนซื้อบ้านในแต่ละเดือนเป็นส่วนของเงินต้นเท่าไหร่ และเป็นส่วนของดอกเบี้ยเท่าไหร่ เพื่อนำไปใช้ในการคำนวณยอดเงินต้นคงเหลือ ในกรณีที่ต้องการปิดยอด